การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยสามารถทำได้ง่ายกว่าประเทศอื่น สำนักงานที่ดินที่มีประสิทธิภาพและเอกสารที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องการเป็นเจ้าของสามารถจัดเตรียมได้ง่าย ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 60 วัน ซึ่งการซื้อขายสามารถทำได้เร็วโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดซื้อขายใหม่ นี่เป็นส่วนสำคัญที่กำหนดเป็นเงื่อนไขการตลาดของไทย ด้วยจำนวนสัดส่วนที่สูงของผู้ซื้อด้วยเงินสด และจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในราชอาณาจักร ทำให้กระบวนการต่างๆ มีความซับซ้อนน้อยกว่าประเทศอื่น อย่างไรก็ตามความพยายามยังเป็นสิ่งที่แนะนำอยู่ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมีความสมเหตุสมผลที่จะยอมรับการตรวจสอบอย่างสมบูรณ์แบบของอสังหาริมทรัพย์ที่จะซื้อ
กระบวนการซื้อ
เมื่ออสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสมได้ถูกเลือก การตรวจสอบควรจะทำได้ ภาพลักษณ์ภายในควรจะเป็นตัววัดที่ดีของเงื่อนไขการเลือกอสังหาริมทรัพย์ของผู้เลือกซึ่งมันจะต้องเหมาะสมในตัวเองและคงทนถาวร สำหรับผู้จะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ใหม่จะต้องเลือกอย่างชาญฉลาดรวมถึงการตรวจสอบถึงโครงสร้างการก่อสร้าง และ การประเมินค่า ในกรณีของคอนโด และบ้านที่มีการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกันควรตรวจสอบพื้นที่โดยทั่วไปและตรวจสอบประวัติการบำรุงรักษา
มันเป็นงานเริ่มต้นของตัวแทนที่จะต้องหาผู้ซื้อที่มีความประทับใจในคำแนะนำอสังหาริมทรัพย์ของผู้ขาย และให้ข้อมูลผู้ขายทันทีที่มีผู้สนใจ ตัวแทนจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับการต่อรองของทั้งสองฝ่ายที่ทำการตกลงกัน เมื่อได้ประสานงานกับผู้ค้าโดยตรง การลดราคาอาจจะทำตามกระแสการตลาด ปกติราคาจะถูกตั้งไว้แล้ว ซึ่งอาจจะยินยอมที่จะรับข้อเสนอฟรี เช่น แอร์ หรือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน
เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ตกลงราคากันแล้ว สามารถให้ทนายความดำเนินการได้ บางตัวแทนเสนอที่จะจัดเตรียมสัญญาและเอกสารด้วยตัวเอง แต่จะเป็นความคิดที่ดีที่จะจ้างทนายของคุณเองซึ่งคุณสามารถตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ หรืออีกทางหนึ่งคือทนายพื้นที่สามารถขอค่านายหน้าในการให้ข้อเสนอแนะสำหรับลูกความให้ทำการเซ็นต์ข้อตกลง
โดยปกติทนายจะเป็นคนร่างสัญญา จ้างคนรังวัดที่ดินและดูสถิติที่ดิน และถ้าทุกอย่างเรียบร้อยสามารถเซ็นต์สัญญาและจ่ายมัดจำโดยปกติจะตกลงจ่ายมัดจำกันในจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเฉพาะส่วนสัญญานี้หากผู้ซื้อไม่สามารถดำเนินการใดๆให้เสร็จสิ้นสัญญา เงินมัดจำที่จ่ายไว้กับผู้ขายล่วงหน้า ผู้ขายสามารถยึดเงินจำนวนนี้ไว้ได้
จะมีการกำหนดเป็นเงื่อนไขในสัญญาถึงกำหนดเวลาจ่ายค่างวด โดยปกติจะกำหนดประมาณ 30 วันถึง 90 วัน และอาจจะเป็นการง่ายขึ้นถ้าหากผู้ซื้อได้ตกลงโดยตรงหลังจากที่จ่ายมัดจำแล้วว่าจะชำระเป็นรายเดือน หรือรายปี โดยเฉพาะถ้าหากยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
เมื่อครบกำหนดสัญญา จะต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ คู่สัญญา หรือทนายตัวแทนจะต้องไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อเจ้าของ ณ สำนักงานที่ดิน การโอนเงินงวดสุดท้ายจะต้องทำในเวลาเดียวกันที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ และออกใบเสร็จรับเงินเพื่อแสดงว่าการขายได้เสร็จสิ้นลง
ในการโอนกรรมสิทธิ์จะใช้เวลาประมาณ 1 วัน และถ้าหากสำนักงานที่ดินไม่ยุ่งมากก็สามารถดำเนินการได้ภายใน 1 ชั่วโมง เมื่อการโอนเสร็จสิ้น ผู้ขายจะได้รับเงิน ส่วนผู้ซื้อจะได้ถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์คนใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น